โปรไบโอติก (Probiotic) ในทางองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ( FAO ) และองค์การอนามัยโลก
( WHO ) มีการจำกัดความที่ชัดเจนมาก สุนัขและแมวก็เป็นเหมือนคนทั่วไป
 มีแบคทีเรียที่ดีหลายร้อยล้านตัวในระบบทางเดินอาหารเพื่อช่วยให้การทำงานของลำไส้เป็นไปอย่างปกติ
สามารถแบ่งออกเป็นแบคทีเรียที่ดี (แบคทีเรียที่มีประโยชน์โดยปกติเรามักจะได้ยิน ไบฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium), 
แลคติกแอซิตแบคทีเรีย (Lactic Acid Bacteria)
 ซึ่งสามารถช่วยบำรุงสุขภาพของระบบทางเดินอาหารให้ดีขึ้น ช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ไม่ดี ช่วยย่อยอาหารและดูดซึมอาหาร 
ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานตามธรรมชาติ : จำนวนประมาณ 10 ~ 20% 
แบคทีเรียที่ไม่ดี (แบคทีเรียที่อันตรายเหมือนรอบๆตัวจะมีเชื้อราอยู่เชื้อแบคทีเรียอีโคไล E. Coli (Escherichia coli), 
เชื้อแบคทีเรียแซลโมเนลลา (Salmonella) ฯลฯ : จำนวนประมาณ 20% 
แบคทีเรียที่เป็นกลางเชื้อแบคทีเรียฉวยโอกาส (Opportunistic bacteria), เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค
(Pathogen) ตามเงื่อนไข : จำนวนประมาณ 60~70% 
แบคทีเรียระดับกลางมักจะไม่มีผลกระทบอย่างรุนแรง แต่มันอาจกลายเป็นแบคทีเรียที่ไม่ดีหรือดีก็ได้
ถ้าหากการกินอาหารประจำวันไม่สมดุล กินอาหารไม่สะอาด ก็ทำให้ง่ายต่อการที่แบคทีเรียที่ไม่ดีจะเข้ามาครอบครอง
ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ระบบทางเดินอาหารของแมวและสุนัขไม่สบายได้


เมื่อจำนวนแบคทีเรียที่ดีในลำไส้เพียงพอ ก็สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและการเกิดปฏิกริยาของแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้ได้ 
เพื่อให้แบคทีเรียที่ไม่ดีไม่ก่อให้เกิดโรคในลำไส้ นอกจากนั้นโปรไบโอติกสามารถช่วยในการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดี 
และยังสามารถเก็บกักแบคทีเรียที่ดีไว้ในระบบทางเดินอาหารของสุนัขและแมว 
เพื่อแก้ปัญหาความไม่สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยย่อยอาหารของลำไส้ ลดการอักเสบ ลดอาการแพ้ 
รักษาสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร.


พูดให้ง่ายขึ้นก็คือ โปรไบโอติกจะช่วยเพิ่มแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ขับไล่แบคทีเรียที่ไม่ดีออกไป กินทุกวันและต่อเนื่อง 
เพื่อให้ระบบทางเดินอาหารมีแบคทีเรียที่ดี ทำให้สัตว์เลี้ยงแสนรักมีระบบทางเดินอาหารที่มีสุขภาพดี 
เพื่อให้ระบบทางเดินอาหารมีแบคทีเรียที่ดี ทำให้สัตว์เลี้ยงแสนรักมีระบบทางเดินอาหารที่มีสุขภาพดี มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยพลังงาน ! !